บทนำนักปรับปรุงพันธุ์ไม้ดอกที่ดี นอกจากจะใช้ประสบการณ์การเรียนรู้ การทำตาม (จากการรู้สายเลือดคู่ผสม) การลองผิดลองถูก และมีการสร้างภาพลูกผสมที่ได้ในหัวแบบทะลุปุโปร่งไว้แล้ว โดยมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอยู่หลายประการด้วยกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่นักปรับปรุงพันธุ์ไม้ดอกต้องการคือการได้สีใหม่ในลูกผสม โดยเฉพาะสีฟ้า ที่ไม่เคยพบในธรรมชาติ
ในปัจจุบันมีความพยายามที่จะใช้เทคโนโลยีในการปรับปรุงพันธุ์ไม้ดอก โดยการใช้ DNA technology (ทั้งแบบตัดต่อยีน และการใช้ DNA marker assisted selection เพื่อคัดเลือกลักษณะที่ต้องการร่วมกับการผสมเกสรตามปกติ) และเราก็ได้เห็น blue carnations, blue roses และที่ตามมาคือ blue lilies จาก florigene
//www.florigene.com/products/index.phpย้อนรอยลูกผสม blue PhalaenopsisAll pictures posted herein are taken from various internet sources without owner's permission and are for viewing pleasure and breeding discussion.
(ขอลอกข้อความจากคุณ Magnificum ในเรื่องการเอาภาพจากเนทมาเล่าสู่กันฟังนะครับ)
ได้มีความพยายามของนักปรับปรุงพันธุ์
Phalaenopsis โดยการผสมเกสร เพื่อสร้างลูกผสมที่ให้สีฟ้าจากต้นพ่อต้นแม่ที่มีสีฟ้าในธรรมชาติ (var.
coerulea) โดยยังไม่ต้องพึ่งการตัดต่อยีนเพื่อให้ได้ blue
Phalaenopsis และส่วนหนึ่งเป็นการนำ
Doritis pulcherrima var. coerulea (ม้าวิ่งบูล) นำมาผสมเข้ากับ
Phalaenopsis เพื่อให้ได้ลูกผสม blue
Phalaenopsis เสียด้วยครับ
1. ดูจาก sapphiredragroorchid ก่อนนะครับ//www.sapphiredragonorchids.com/SDOgallery.htma. Phalaenopsis violacea var. coeruleaนักปรับปรุงพันธุ์ใช้
Phal. violacea var.
coerulea ในการสร้างลูกผสมสีฟ้าเป็นอันดับต้นๆ ทั้งนี้ sapphire ได้ใช้วิธีต่อยอดโดยการซื้อเมล็ดลูกผสม 2 สายเข้าหากัน (จาก krullsmith)
//krullsmith.com/alliance/phalaenopsis.htmแล้วมาตั้งชื่อเอง A, B, C =
Phal. violacea 'Krull's Navy Blue' AM/AOS
x
Phal. violacea 'Crystelle' HCC/AOS
A =
Phal. violacea 'Dainiji Airo'
B =
Phal. violacea 'Sapphire Navy'
C =
Phal. violacea 'Ruby Dragon' ต้นนี้ได้สี dark pink จากสี pink ของ
Phal. violacea 'Crystelle'
D =
Phal. violacea 'Joy's Blue' ซึ่ง sapphire ไม่ได้ให้รายละเอียดว่ามาจากไหนครับ
E =
Phal. violacea 'SDO Violet' (
Phal. violacea var.
coerulea x sib)
F = เป็นการเปรียบเทียบระหว่าง
Phal. violacea 'Joy's Blue' ซ้าย และ
Phal. violacea 'Sapphire Navy' ขวา
b. มาดู var. coerulea ชนิดอื่นๆ ที่ sapphire ใช้ในการสร้าง blue phalaenopsisA =
Phal. parishii ที่บอกว่าเป็น blue lip
B =
Phal. equestris var.
cyanochilus 'Martel's Blue' ต้นนี้ต้นกำเนิดน่าจะมาจากไต้หวัน
C =
Dor. pulcherrima var.
coerulea 'Indigo Dragon'
D =
Dor. pulcherrima var.
coerulea 'Violet Dragon'
E =
Dor. pulcherrima var.
coerulea 'Flame'
F =
Dor. pulcherrima var.
coerulea 'Little Blue'
และที่แน่ๆ
Dor. pulcherrima var.
coerulea มาจากประเทศไทยแน่นอน (น่าภูมิใจปล่าวครับ)
c. มาดู blue Phalaenopsis ที่ sapphire สร้างขึ้นนะครับA =
Dtps. Kenneth Schubert 'Blue'
(
Phal. violacea var.
coerulea x
Dor. pulcherrima var.
coerulea)
B =
Dtps. Kenneth Schubert 'Fangtastic'
(
Phal. violacea var.
coerulea x
Dor. pulcherrima var.
coerulea)
จริงๆ
Dtps. Kenneth Schubert สมัยจดทะเบียนชื่อใหม่ๆ ยังไม่ได้ลูกผสมสีบลู เนื่องจากใช้
Phal. violacea และ
Dor. pulcherrima ที่ไม่เป็น var.
coerulea แต่จะได้ลูกผสมสีชมพูเป็นส่วนใหญ่ แต่จะมีสีบลูออกมาจำนวนหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าสีบลูเป็นลักษณะยีนด้อยและน่าจะเป็น homologus recessive gene
C =
Dtps. Purple Martin 'KS'
(
Dtps. Kenneth Schubert x
Phal. violacea var.
coerulea) เป็นการผสมกลับไปยัง
Phal. violacea var.
coerulea D =
Dtps. Siam Treasure 'Blue'
(
Phal. lowii var.
coerulea x
Dor. pulcherrima var.
coerulea)
จริงๆ
Dtps. Siam Treasure ในการจดทะเบียนชื่อครั้งแรก ยังไม่ได้ใช้ var.
coerulea ทั้งพ่อและแม่ ได้ลูกครั้งแรกเป็นสีชมพู
E =
Dtps. Fire Cracker 'Blue Martini'
(
Dtps. Red Coral x
Dor. pulcherrima var.
coerulea)
F =
Dtps. Joy Green Bee
(
Phal. Timothy Christopher x
Dor. pulcherrima var.
coerulea)
สรุปของ sapphire จะเห็นได้ว่าลูกผสม blue Phalaenopsis มีเลือด Dor. pulcherrima var. coerulea) อยู่ด้วยอย่างน้อย 1 ชั้น
น่าสนใจทีเดียว.....2. มาดูของ bigleaforchids นะครับ//www.bigleaforchids.com/photos/p5_blue.htma. var. coerulea ที่ bigleaforchids นำมาเสนอA =
Phal. violacea 'Blue Sea'
B =
Phal. violacea var.
coeruleaC =
Phal. modesta(เป็นสีที่พบโดยทั่วไป)
D =
Phal. modesta x sib จะพบว่า
ซ้ายสุด
Phal. modesta var.
albaกลาง
Phal. modesta ได้สีชมพูเข้มต้นนี้
ขวาสุด
Phal. modesta var.
coeruleab. มาดู blue Phalaenopsis ที่ bigleaforchids สร้างขึ้นA =
Dtps. Kenneth Schubert 'Blue Ribbon' BM/JOGA
B =
Dtps. Purple Martin 'KS'
C =
Dtps. Little Blue Bird'
(
Dtps. Kenneth Schubert x
Dor. pulcherrima var.
coerulea) เป็นการผสมกลับไปยัง
Dor. pulcherrima var.
coeruleaD =
Dtps. Tzu Chiang Sapphire 'C1'
(
Dtps. Tzu Chiang Lilac x
Dor. pulcherrima)
E =
Dtps. Tzu Chiang Lilac 'C#1 Blue'
(
Dtps. Kenneth Schubert x
Phal. Tzu Chiang Tetralitz)
F =
Dtps. Joy Green Bee
(
Phal. Timothy Christopher x
Dor. pulcherrima var.
coerulea) (ตัวนี้ทำเช่นเดียวกับ sapphire แต่ bigleaforchids ทำได้สวยกว่า)
สรุปของ bigleaforchids จะเห็นได้ว่าลูกผสม blue Phalaenopsis มีเลือด Dor. pulcherrima var. coerulea) (บางคู่ผสมไม่ได้บอกว่าใช้ Dor. pulcherrima var. coerulea) อยู่ด้วยอย่างน้อย 1 ชั้น
น่าสนใจอีกแล้วครับท่าน.....3. มาดูต้นพ่อแม่พันธุ์ของ orchidview นะครับ//orchidview.com/Phal_violacea_and_Phal_bellina_gallery.htmA =
Phal. violacea (Dean Stock)
B =
Phal. violacea 'Blue Fin Tuna'
C =
Phal. violacea 'Gaston Blen'
D =
Phal. violacea 'Peek-a-Blue'
E =
Phal. violacea 'Gulftream Blue' JC/AOC
F =
Phal. violacea 'Gulftream Blue' JC/AOC
และมีจากเวปอื่นๆ อีกมากมายที่พยายามจะสร้างลูกผสม blue
Phalaenopsis โดยมีเลือด
Doritis pulcherrima var.
coerulea เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างน้อย 1 ชั้น
สรุปในเบื้องต้นพ่อแม่พันธุ์ที่จะใช้ในการสร้างลูกผสม blue Phalaenopsis ได้แก่
1.
Phal. violacea var.
coerulea 2.
Phal. equestris var.
cyanochilus3.
Phal. lowii var.
coerulea4.
Phal. parishii (blue lip)
5.
Phal. modesta var. coerulea
และพระเอก
Dor. pulcherrima var.
coeruleaดูความงามของ Phal. lowii Rchb.f ที่ใช้ในการสร้าง Dtps. Siam Treasure กันนะครับPhal. lowii Rchb.f มีชื่อไทยว่า ผีเสื้อชมพูหรือเอื้องจงอยปากนก ดูดอกแล้วเหมือนจริงๆ ครับ
สีของผีเสื้อชมพูอาจพบเป็นสีชมพูเข้มได้
หรืออาจพบผีเสื้อชมพูมีทรงของดอกกลมๆ ก็ได้
Phal. lowii Rchb.f เคยเป็นตำนานของการสาบสูญจากโลกเลยก็ว่าได้ แต่ก็ได้ถูกค้นพบอีกครั้งในประเทศไทย (น่าภูมิใจมากๆ) และยังเป็นส่วนที่นำไปใช้ในการสร้างลูกผสม blue
Phalaenopsis อีกต่างหาก (ภูมิใจ 2 ต่อ เพราะเอาไปผสมกับ
Dor. pulcherrima var.
coerulea ม้าวิ่งบลู ที่มีถิ่นกำเนิดในเมืองไทยอีกด้วย)
ดูความงามของ Dtps. Siam TreasureDtps. Siam Treasure จดทะเบียนชื่อโดย S. Wannakrairoj (T.Lusup-anan) 1997 ได้ลูกผสมสีชมพู (คนผสมน่าจะเป็นคุณตี๋อ้วน..ขอข้อมูลยืนยันนะครับ)
//www.phals.net/doritis/pulcherrima/SiamsTreasure_e.htmlแต่ถ้าใช้
Phal. lowii var.
coerulea x
Dor. pulcherrima var.
coerulea จะได้ลูกผสมสี blue
Phalaenopsis ที่ชื่อ
Dtps. Siam Treasure น่าภูมิใจนะครับ
Dtps. Siam Treasure ยังคงเป็นพ่อแม่พันธุ์ที่ดีในการสร้างลูกผสม blue
Phalaenopsis ต่อไป
เป็นภาพเปรียบเทียบระหว่าง
Dtps. Siam Treasure (ซ้าย) และ
Dor. pulcherrima var.
coerulea (ขวา)
เป็นภาพเปรียบเทียบระหว่าง
Phal. lowii Rchb.f (บน) และ
Dtps. Siam Treasure (ล่าง)
เป็นภาพเปรียบเทียบระหว่าง
Dtps. Siam Treasure (บน) และ
Dtps. Anna-Larati Soekardi x
Dor. pulcherrima var.
choompornensis (ล่าง)
วิเคราะห์อิทธิพลการแสดงออกของ Doritis ต่อการสร้างลูกผสม blue Phalaenopsis1. ลูกผสมที่มีเลือด Doritis pulcherrima มียีน blue แฝงอยู่ลองมาดู primary hybrid ที่ได้จดทะเบียนชื่อไว้ ผมใช้ข้อมูลของ phals.net นะครับ (เฉพาะที่มีรูปประกอบนะครับ)
//www.phals.net/doritis/pulcherrima/index_e.htmlprimary hybrid ชุดที่ 1
A =
Dtps. Anna-Larati Soekardi
(
Dor. pulcherrima x
Phal. parishii)
B =
Dtps. Purple Passion
(
Phal. shilleriana x
Dor. pulcherrima)
C =
Dtps. Kelsey's Blush
(
Phal. tetraspis x
Dor. pulcherrima)
D =
Dtps. Jim
(
Dor. pulcherrima x
Phal. venosa)
E =
Dtps. Kenneth Schubert
(
Dor. pulcherrima x
Phal. violacea)
F =
Dtps. Myriam-Esther
(
Phal. modesta x
Dor. pulcherrima)
primary hybrid ชุดที่ 2
A =
Dtps. Purple Gem
(
Dor. pulcherrima x
Phal. equestris) ที่มีสีชมพู
B =
Dtps. Purple Gem
(
Dor. pulcherrima x
Phal. equestris) ที่มีสีม่วง
C =
Dtps. Musick Surprise
(
Dor. pulcherrima x
Phal. chibae) ที่มีสีขาวปากเหลือง
D =
Dtps. Musick Surprise
(
Dor. pulcherrima x
Phal. chibae) ที่มีสีชมพู
E =
Dtps. Tarina
(
Phal. javanica x
Dor. pulcherrima)
F =
Dtps. Purple Sum
(
Dor. pulcherrima x
Phal. sumatrana)
สังเกตที่ spp. กันก่อนนะครับจะเห็นได้ว่ามีการค้นพบ var.
coerulea ใน
Phalaenopsis และใน
Doritis ใน
spp. ที่เพิ่มขึ้น และประกอบกับกล้วยไม้เป็นพืชผสมข้ามโดยธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ รวมถึง genus
Phalaenopsis และ
Doritis ที่เป็นพืชผสมข้ามแบบผสมเปิด (หรือมนุษย์ช่วยผสมก็ถือว่าเป็นพืชผสมข้ามเช่นกัน) เพราะฉะนั้น
spp. ที่ทำการ self หรือ sib จะมีโอกาสที่ยีนจะมาเข้าคู่กันโดยบังเอิญแบบ homologus recessive gene ที่ทำให้การทำงานของ anthocyanin pathway ทำงานให้ได้สีบลูนั่นเอง
เขียนแทนได้ดังนี้ (หากการทำงานของ blue ยีน ถูกควบคุมด้วยยีนเพียงคู่เดียว)
Bb x Bb = 1 BB, 2 Bb ,1 bb
B_ = genotype เป็นสีอื่นที่ไม่ใช่สีบลู (ขึ้นกับว่าเป็นยีนข่มสมบูรณ์, ข่มไม่สมบูรณ์, ข่มร่วม หรือเป็นแบบ epistasis ฯลฯ)
bb = genotype เป็นสีบลู
การใช้ var. coerulea จากพ่อหรือจากแม่ หรือทั้งพ่อและแม่ (Phalaenopsis x Doritis) โอกาสที่จะได้ลูกผสม blue
Phalaenopsis จึงมีโอกาสที่เพิ่มขึ้น
ยกตัวอย่าง การสร้าง
Dtps. Siam Treasure
Phal. lowii (สีชมพู) (Bb) x
Dor. pulcherrima var.
coerulea (ม้าวิ่งบลู) (bb)
F1 =
Dtps. Siam Treasure (สีชมพู) (Bb) และ
Dtps. Siam Treasure (สีบลู) (bb) อย่างละครึ่ง
แล้วเราก็เลือก
Dtps. Siam Treasure (สีบลู) 2 ต้นผสมกัน เพื่อเพิ่มทุกตำแหน่งของยีนบลู (หากการทำงานของยีนบลูควบคุมด้วยยีนมากกว่า 1 คู่)
F2 =
Dtps. Siam Treasure ที่เป็นสีบลู (bb) ทั้งหมด
แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิดครับท่าน......2. สมมุติฐานที่ว่า Doritis มีอิทธิพลต่อการแสดงออกของยีนสีในลูกผสม Phalaenopsis//www.ars.usda.gov/research/publications/publications.htm?SEQ_NO_115=178793ในเวปที่ประกอบ Griesbach, 2005 พบว่า สีบลูที่เกิดขึ้น เป็น anthocyanin interaction with co-pigment (ร่วมกับ flavonone หรือ flavonol) ที่ pH ในแวคคิวโอเป็นด่าง
โดยสภาพ pH เป็นกรด acid pH (pH 3-4) จะพบการทำงานของ anthocyanin:co-pigment complex จะให้สีไปทางแดง
แต่สภาพ pH เป็นด่าง alkaline pH (pH 5-6) จาก
Doritis pulcherrima ทำให้การทำงานของ anthocyanin:co-pigment complex ให้สีไปทางบลูเพิ่มขึ้นอีกด้วย (แบบ single co-dominantly inherited gene อีกต่างหาก หมายความว่าอิทธิพลแบบนี้สามารถถ่ายทอดได้)
ขอเอวังด้วยประการเช่นนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ได้บ้างไม่มากก็น้อย
หากมีข้อสงสัย.... เพิ่มเติม..... ขอความกรุณาด้วยความยินดีอย่างยิ่งครับ
ขอบคุณเจ้าของที่นำสิ่งดีๆมาฝาก
โดย: ปราวตรี 9 ตุลาคม 2550 12:53:05 น.
แต่ขอเวลาอ่านก่อนครับ เผื่อจะมีคำถาม
โดย: ตะวันสุริยา. IP: 58.8.169.60 9 ตุลาคม 2550 17:10:42 น.
โดย: พ่อหมี (pohmie ) 9 ตุลาคม 2550 19:55:23 น.
รับการเจียระไนอีกครั้ง หลังจากที่ ฟ้ามุ่ยไปเป็นเพชรน้ำเอก
ของโลกมาแล้ว ต่อไปก็จะมีเพิ่มอีก เราคนไทยควรที่จะ
หวงแหน รัก และรักษ์ อย่างถึงที่สุด ว่าใหมครับพี่
รู้สึกภูมิใจจริงๆเวลารู้ว่าสิ่งดีๆมาจากไทย
โดย: พลายจันทร์ 10 ตุลาคม 2550 9:30:33 น.
โดย: เสือเจ้าถิ่น 10 ตุลาคม 2550 12:53:11 น.
เราใช้สีบลู จากแวนด้าฟ้ามุ่ยได้ไหมครับ ในเมื่อฟ้ามุ่ยมีความโดดเด่นในการถ่ายทอดลายและสี เช่น
1. Vandoritis -> ฟ้ามุ่ย x Doritis x Doritis x Doritis x ...
2. Vandaenopsis -> ฟ้ามุ่ย x Phal. x Phal. x Phal. x ...
3. Hagerara -> ฟ้ามุ่ย x Doritis x Phal. x Doritis x Phal. x ...
โดย: ตะวันสุริยา. IP: 58.8.176.4 10 ตุลาคม 2550 13:39:59 น.
วันหลังจะเข้ามาบ่อยๆนะคะ
ชอบมาก สวยๆทั้งนั้นและน่าสนใจ
เรื่องการขยายพันธุ์โดยวิธีต่างๆ
ได้อะไรที่แปลกและสวยงาม
น่าสนใจจริงๆ ขอลิงค์ชื่อหน่อยนะคะจะได้มาเยี่ยมง่ายๆ
ชอบพรรณไม้มากมาก
โดย: botanichuman 11 ตุลาคม 2550 0:18:59 น.
โดย: appendiculata191 11 ตุลาคม 2550 0:29:11 น.
แต่ปัญหาที่ติดตามมาจากการสร้างลูกผสมตามที่คุณตะวันสุริยาถาม
1. Vandoritis -> ฟ้ามุ่ย x Doritis x Doritis x Doritis x ...
2. Vandaenopsis -> ฟ้ามุ่ย x Phal. x Phal. x Phal. x ...
3. Hagerara -> ฟ้ามุ่ย x Doritis x Phal. x Doritis x Phal. x ...
สีบลูได้.....แต่ยีนร่วมจากฟ้ามุ๋ยในลักษณะอื่นๆ อาจติดมาด้วย เช่นลักษณะการเจริญเติบโตแบบเจริญไปข้างบนแบบฟ้ามุ๋ย การต้องการอุณหภูมิต่ำในการกระตุ้นให้เกิดตุ่มดอกแบบฟ้ามุ๋ย ระบบรากเปลี่ยนแปลง รูปร่างใบเปลี่ยนแปลง และอื่นๆ อีกมากมายครับ
ผมจึงคิดว่าเอาสีบลูจาก Doritis pulcherrima var. coerulea ผสม Phalanopsis แล้วปรับปรุงในลักษณะอื่นๆ เช่นดอกใหญ่ขึ้น ดอกเป็นดอกช่อ และอื่นๆ ที่หาได้จาก Phalaenopsis แล้วใช้วิธี gene pool ตามหลักพันธุศาสตร์น่าจะง่ายกว่าครับ
โดย: appendiculata191 11 ตุลาคม 2550 22:57:42 น.
ชื่อภาษาอังกฤษไม่ได้มีความหมายพ้องเฉยๆ
จริงๆเอาชื่อเล่นชื่อจริงคนในบ้านมาผสมเป็นชื่อนี้พอดีค่ะ
ได้เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อบ้างไหมคะ
โดย: botanichuman 12 ตุลาคม 2550 19:25:30 น.
โดย: appendiculata191 12 ตุลาคม 2550 20:57:17 น.
โดย: grippini 13 ตุลาคม 2550 1:46:01 น.
โดย: botanichuman 13 ตุลาคม 2550 8:05:39 น.
แล้วพืชที่มียางทำไมหาดีเด็นเอไม่ออกเลย
แก้ไขยังไงค่ะหรือมีวิธีการยังไง
โดย: botanichuman 13 ตุลาคม 2550 21:14:13 น.
โดย: botanichuman 13 ตุลาคม 2550 21:15:14 น.
1. ส่วนใหญ่แล้วพืชทุกชนิดสามารถนำมาสกัด DNA ได้ทุกส่วน แต่ที่นิยมนำมาใช้คือใบอ่อน
2. DNA extraction มีหลายชนิด ส่วนใหญ่มีองค์ประกอบคล้ายๆ กัน แล้วแต่ว่าเป็นบริษัทอะไรผลิต ชุด kit จากหน่วยงานในเมืองไทยมีหลายเจ้า ราคาไม่แพง
3. ส่วนคุณภาพของ DNA ที่ได้ ขึ้นกับว่าจะนำไปใช้ต่ออะไรมากกว่า อย่างกรณีจะทำ PCR คุณภาพของ DNA อาจไม่จำเป็นต้องให้มี intact DNA หรือมีคุณภาพของ DNA ที่ดีเยี่ยม แต่หากต้องการคุณภาพของ DNA เพื่อไปทำ southern hybridization, DNA fingerprint อาจจำเป็นต้องคำนึงถึงคุณภาพของ DNA เป็นสำคัญด้วย
4. พืชบางชนิดมีปัญหาปนเปื้อน polysaccharide หรือมี ยางมาก ก็อาจเจอปัญหาว่าเวลาตรวจสอบ intact DNA ในการ run gel หรือวัด OD ของ DNA อาจไม่ได้ DNA ครับ
5. เลยอยากรู้ว่าที่ทำเป็นพืชชนิดใดครับ แนะนำว่าอาจลองเปลี่ยนวิธีสกัด DNA หรือใช้ส่วนของใบอ่อน
ลองดูนะครับ
โดย: appendiculata191 13 ตุลาคม 2550 23:01:07 น.
โดย: กบเมืองชล 14 ตุลาคม 2550 14:58:18 น.
ขอบคุณที่แวะเยี่ยมบล็อกนะคะ
โดย: BelovedArt IP: 203.154.83.46 14 ตุลาคม 2550 18:50:14 น.
ชอบดอกสีม่วงขาวคะ
สวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดย: พิมาน 14 ตุลาคม 2550 23:01:27 น.
ยินดีที่ได้รู้จักครับ
โดย: skyteam 15 ตุลาคม 2550 0:24:53 น.
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบ้านค่ะ
ชอบดอกไม้ธรรมดาๆ มากกว่า
กล้วยไม้เคยเลี้ยงแล้วตายหมด
เพราะเปลี่ยนกระถางไม่เป็นค่ะ
สอนบ้างซีคะ
โดย: ป้าเเอ๊ด (addsiripun ) 15 ตุลาคม 2550 1:06:23 น.
โดย: พ่อหมี (pohmie ) 15 ตุลาคม 2550 18:14:03 น.
โดย: chuchuchu 15 ตุลาคม 2550 21:17:11 น.
ข้าน้อยลองทำเท่านั้น ปกติก็ใช้ยอดทั้งนั้น
ทำของทองกวาวออกมาลายพิมพ์สวยมาก
ทำพีซีอาร์ แต่ของกุหลาบทำไมไม่ออกล่ะ
อาจจะเป็นเพราะด้อยประสบการณ์เอามากๆก็ได้
โดย: botanichuman 16 ตุลาคม 2550 18:38:56 น.
1. กุหลาบไม่มียางนี้ครับ ไม่น่าจะไม่ได้ DNA
2. ทำลายพิมพ์ทองกวาว ด้วยวิธีอะไรครับ มีหลายวิธีมาก แต่ทำเพื่ออะไรครับ ขอขยายความหน่อยได้ป่าวครับ
โดย: appendiculata191 16 ตุลาคม 2550 21:03:31 น.
และแยกขนาดโดยวิธีอีเลคโตรโฟริซิส
ปล่อยกระแสไฟมันก็จะเคลื่อนไปบนเมมเบรน
อาจารย์เขารวบรวมลายพิมพ์ดีเอ็นเอในงานของ
อาจารย์นักศึกษาก็ช่วยกันพรรณไม้คนละชนิด
ค่ะ ก็เลยไม่ได้ทำประจำ
โดย: botanichuman 17 ตุลาคม 2550 19:05:53 น.
2. ตกลงเป็นการทำลายพิมพ์ดีเอ็นเอด้วยเทคนิคอะไรครับคุณโบตานิ
โดย: appendiculata191 17 ตุลาคม 2550 19:18:27 น.
เป็นDAF ค่ะ
โดย: botanichuman 17 ตุลาคม 2550 20:03:20 น.
โดย: botanichuman 17 ตุลาคม 2550 20:04:51 น.
โดย: appendiculata191 17 ตุลาคม 2550 22:07:17 น.
ที่ขึ้นเขาลงเขาหลายลูกมีพืชน่าสนใจเยอะค่ะ
แจ้ซ้อน ก็มีความหลากหลายทางชีวภาพมาก
ขุนตาล ก็น่าสนใจ
ส่วนใหญ่เป็นเขาภาคเหนือ
แล้วท่านไปหากล้วยไม้ป่าที่ไหนล่ะ
เคยเห็นคนมาขายที่ตลาดเยอะเลย
ของป่าไม่อยากซื้อเพราะจะเป็นการสนับสนุนให้เอามาจากป่า แต่ที่มีที่บ้านมาจากป่าจริงๆไม่รู้จักชื่ออ่ะ
ดอกสีม่วงแดงเล็กๆและสีเหลืองแต่ออกดอกช่วงสั้นมากเลยแผลบเดียวไม่เห็นแล้ว
โดย: botanichuman 19 ตุลาคม 2550 0:18:38 น.
โดย: appendiculata191 19 ตุลาคม 2550 11:18:40 น.
โดย: cybern 19 ตุลาคม 2550 13:31:19 น.
คล้ายมะม่วงหัวแมงวันเม็ดจะกลมรีหน่อยสีเขียว
บีบเปลือกจะเจอเยื่อสีแดงหุ้มเมล็ดอีกที
ภาพที่2-3 มะกั๊กใช่หรือเปล่าหรือต้นอะไรเรียกลำใยป่าได้ไหม
โดย: botanichuman 19 ตุลาคม 2550 15:14:02 น.
ภาพนี้ 3 และสุดท้ายคือ 1
โดย: botanichuman 19 ตุลาคม 2550 15:16:39 น.
เมื่อตะกี้มะเห็นมันจะขึ้นเลยภาพหนึ่ง
ดูอีกทีขึ้นแล้ว ข้าน้อยเป็นงง ขอโทษถ้ามันรก
ก็ลบไปเลยนะท่าน
ก็เป็น 1 2 3 1 นะเจ้าคะ
โดย: botanichuman 19 ตุลาคม 2550 15:19:02 น.
โดย: appendiculata191 19 ตุลาคม 2550 17:02:11 น.
โดย: Cafe`tea 19 ตุลาคม 2550 20:47:54 น.
โดย: กระพรวนน้อยเสียงใส 20 ตุลาคม 2550 15:47:57 น.
โดย: korranid 20 ตุลาคม 2550 15:59:04 น.
ชอบดอกกล้วยไม้เหมือนกันค่ะ ไม่ค่อยจิงจังสักเท่าไหร่
ส่วนใหญ่แค่ไว้ดูเล่นเพลิน ๆ หน่ะค่ะ เวลาเห็นมันดอกแล้วก็มีความสุขหน่ะค่ะ มองไปเพลินดีนะคะ
โลกนี้ช่างสร้างสรรค์สิ่งสวยงามให้มนุษย์อย่างเราได้เชยชมกันนะค่ะ
โดย: atit (atit_amo ) 22 ตุลาคม 2550 16:25:26 น.
หรือว่าอยู่แต่ศูนย์เพาะพันธุ์และวิจัย
เพื่อทำงาน ข้างล่างนี้ดอกอะไรค่ะ
>
>
>
>
>แหะ แหะ ล้อเล่นนะคะ ทำงานผ่อนคลายมั่งนะคะ
โดย: botanichuman 22 ตุลาคม 2550 18:00:10 น.
โดย: appendiculata191 22 ตุลาคม 2550 18:38:04 น.
วงศ์ Compositae
สกุล Helianthus
กล้วยไม้อะไรที่ราคาแพงค่ะ
ทำไมฟาแลนฯกว่าจะเลี้ยงโตช้ามากเลย
ถ้าเอามาจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อต้นเล็กๆ
แต่ถ้าโตดอกออกสวยสมใจเลยบานทนนานมากด้วย
แต่กลิ่นหอมสู้เอื้องผึ้งบ้านเราไม่ได้
โดย: botanichuman 22 ตุลาคม 2550 23:23:17 น.
โดย: basbas 24 ตุลาคม 2550 12:05:37 น.
หลับฝันดีคะ
พักบ้างนะคะ
โดย: botanichuman 24 ตุลาคม 2550 21:08:44 น.
โดย: botanichuman 25 ตุลาคม 2550 18:23:58 น.
โดย: นกหวาน IP: 158.108.161.47 26 ตุลาคม 2550 8:19:32 น.
ผู้คนแน่นขนัดไปหมด ใส่เสื้อสีเหลืองกันหมดเลย
น่าปลึ้มจังที่ประชาชนช่างรักพระองค์อย่างมากมาย
โดย: botanichuman 27 ตุลาคม 2550 18:16:15 น.
โดย: RadBit 27 ตุลาคม 2550 22:13:18 น.
โดย: ไม่รู้หนูไม่ได้ทำ (ไม่รู้หนูไม่ได้ทำ ) 28 ตุลาคม 2550 19:14:40 น.
โดย: nana (dokmainana ) 1 พฤศจิกายน 2550 19:31:13 น.
ละเอียดดีจริงๆ
โดย: งามหน้า 3 พฤศจิกายน 2550 23:41:20 น.
โดย: yoja 7 พฤศจิกายน 2550 15:16:46 น.
โดย: ST.Exsodus 12 พฤศจิกายน 2550 20:57:48 น.
โดย: เยี่ยมรุ้ง 13 พฤศจิกายน 2550 0:09:43 น.
อยากได้ไวโอ เนวี่บลูอ่ะ.....
โดย: บ้านค่าย IP: 202.57.155.137 16 พฤศจิกายน 2550 15:05:33 น.
โดย: โซบะคุง 22 พฤศจิกายน 2550 8:36:07 น.
โดย: พ่อหมี (pohmie ) 25 พฤศจิกายน 2550 10:22:53 น.
โดย: sunnyorchids 25 พฤศจิกายน 2550 11:50:49 น.
โดย: sunnyorchids 25 พฤศจิกายน 2550 11:52:29 น.
ตอบคำถามของคุณ
คือ ที่ผมไปดูแสงศตวรรษ ที่สมาคมฝรั่งเศษมา
เป็นฉบับเต็มครับ ไม่มีตัด ฉากที่ว่าเลย
(สงสัยถือสิทธิของสมาคมต่างชาติมั้งครับไม่แน่ใจ)
โดย: คนสวน IP: 58.9.203.128 25 พฤศจิกายน 2550 13:49:09 น.
ส่วนลูกผสม ก็ใช้ลายพิมพ์ดีเอ็นเอได้ด้วยครับเพื่อหาความสัมพันธ์ทางสายเลือด ความเป็นพ่อแม่ลูกได้นั้นเอง
โดย: appendiculata191 25 พฤศจิกายน 2550 20:20:27 น.
โดย: noojew 26 พฤศจิกายน 2550 10:24:28 น.
โดย: rfu 13 ธันวาคม 2550 0:32:20 น.
โดย: แหม่ม (kamonorchids ) 16 ธันวาคม 2550 15:22:28 น.
โดย: พ่อหมี (pohmie ) 24 ธันวาคม 2550 19:49:28 น.
ขอบคุณนะคะ ที่ไปร่วมดูดอกไม้และเฉลยชื่อ ดอกสาละให้แม่อ้วนทราบ
ยินดีที่ได้รู้จักจ่ะ
โดย: แม่อ้วนคนสวย 8 มกราคม 2551 13:55:38 น.
โดย: พลายจันทร์ 15 มกราคม 2551 11:48:28 น.
โดย: เขาพนม 30 มกราคม 2551 20:34:02 น.
โดย: Hana* 13 กุมภาพันธ์ 2551 18:48:45 น.
โดย: jra IP: 58.8.169.70 8 มีนาคม 2551 1:29:40 น.
เยี่ยมมากค่ะ
โดย: ดา ดา 13 มีนาคม 2551 11:12:33 น.